แชร์เลยตอนนี้
กรุงเทพมหานคร มหานครแห่งสีสัน ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่น่าเที่ยวที่สุดในโลกและในเอเชียถึง 3 ปีซ้อน ไฮไลต์ที่สุดคือ การไปเที่ยวชมย่านเมืองเก่าบนเกาะรัตนโกสินทร์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโบราณของวัดวาอาราม วัง และบ้านเมืองเก่าแก่ เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งวัฒนธรรม และวิถีชีวิต วิถีการท่องเที่ยวด้วยการ ” ปั่นจักรยาน ” แทนการเดินหรือนั่งรถ เป็นการ ท่องเที่ยวอินเทรนด์ ในรูปแบบที่สนุกสนาน แถมยังได้สุขภาพที่ดีอีกด้วย
ร้านจักรยานที่จะแนะนำให้เช่าใกล้เกาะรัตนโกสินทร์ อยู่ในซอยสามเสน 4 ตรงข้ามกับสำนักงานเขตพระนคร ส่วนใหญ่จักรยานให้เช่าจะเป็น จักรยาน เสือหมอบ ร้านชื่อ ” Velo Thailand “ ราคาต่อคันอยู่ที่คันละ 300 บาท มีแม่กุญแจล็อครถให้ยืม
เส้นทางปั่นลัดเลาะรอบเกาะรัตนโกสินทร์ จากแผนที่จะเริ่มปั่นย้อนสอนไปกันที่ สถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 1 “ป้อมพระสุเมรุ” หนึ่งใน 14 ป้อม ที่ยังคงเหลือให้ชมความสวยงาม ตั้งอยู่หัวมุมบนถนนพระอาทิตย์ บริเวณส่วนกลางเป็น “พระที่นั่งสันติชัยปราการ” ตั้งตระหง่านอวดความสวยงามอยู่ริมน้ำ มักถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบงานพระราชพิธีทางชลมารถ
พื้นที่บริเวณนี้ถูกปรับให้เป็นสวนสาธารณะมีชื่อว่า ” สวนสันติชัยปราการ ” ส่วนใหญ่ชาวต่างชาตินิยมมานั่งพักผ่อน หรือมาฝึกสมาธิ ทำโยคะ และยังเป็นจุดชมวิวสะพานพระราม 8 ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ
จากนั้นปั่นลอดสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าเข้าสู่ถนนราชินีผ่านเส้นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจอท่าพระจันทร์เข้าสู่ถนนมหาราช ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเจอท่ามหาราช ปั่นตรงเลยไปอีกหน่อยเจอท่าช้าง และท่าเตียน ท่าเรือเก่าแก่ของกรุงเทพฯ
แวะจอดพักดื่มน้ำ และกราบขอพร ” วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ” วัดประจำรัชกาลที่ 1 แลนมาร์กสำคัญต้องไปชมพระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ถูกสร้างขึ้นเพื่อครอบพระศรีสรรเพชญ์ และวิหารพระนอน หรือวิหารพระพุทธไสยาสน์ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ
ภายในวัดพบ สถาปัตยกรรมรูปปูนปั้นฤๅษีดัดตน ที่มีชื่อเสียง ส่วนใหญ่เป็นท่าโยคะตามหลักของอินเดีย ตามพระราชดำริรัชกาลที่ 3 ให้วัดแห่งนี้ เป็นศูนย์รวมวิชาการการแพทย์แผนไทย
หายเหนื่อยแล้วก็ปั่นจักรยานเข้าสู่ ” วัดพระแก้ว ” หัวใจเกาะรัตนโกสินทร์ทางซ้ายมือ ฝั่งตรงข้ามจะเจอกับวังสราญรมย์ผ่าน ” กระทรวงกลาโหม” แวะถ่ายรูปกับอาคารทรงยุโรป 3 ชั้น สถานที่ยอดนิยมที่ต้องไม่พลาดเช็คอิน
เข้าสู่ถนนริมคลองหลอด ซ้ายมือจะเจอ ย่านสามแพร่ง ย่านเก่าแก่ที่มีเสน่ห์หลบอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เดิมเป็นวังประทับของพระโอรส 3 พระองค์สมัยรัชกาลที่ 4 แต่มีการตัดถนนผ่าน จนเป็นทางสามแพร่ง จึงนำชื่อพระโอรสมาตั้งเป็นชื่อถนนทั้งสามแพร่ง
ปั่นไปทำความรู้จักกับแพร่งแรก “แพร่งภูธร” ย่านการค้าริมคลองหลอดเชิงสะพานช้างโรงสี สามารถแวะไปแชะภาพกับแนวตึกเก่าที่เรียงรายล้อมรอบได้หรือปั่นไปชมรถโบราณสมัยรัชกาลที่ 5 ที่อู่วิเชียรซ่อมรถ
“ แพร่งนรา ” ที่ตั้งโรงเรียนตะละภัฏศึกษา อาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ เดิมเป็นที่ตั้งวังเก่า แพร่งสุดท้ายปั่นไปชมวังเก่า วังสรรพสาตรศุภกิจ ตั้งอยู่บน “ แพร่งสรรพศาสตร์ ” ชมความงามของซุ้มประตูวัง ที่เหลือรอดจากเพลิงไหม้ในปี 2510
จากนั้นปั่นเข้าสู่ ” วัดสุทัศนเทพวราราม ” วัดที่มีตำนานเล่าขานว่า “แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์” ภายในพระวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนังรูปเปรต ตามจินตนาการช่างสมัยรัชกาลที่ 3 บริเวณด้านหน้าวัดจะพบกับ ” เสาชิงช้าโบราณสีแดง ” แลนมาร์กสำคัญ ถือเป็นสะดือเมือง หรือจุดศูนย์กลางโดดเด่นของกรุงเทพฯ
ปั่นข้ามไปอีกฝั่งเป็น ลานคนเมือง ใครที่ไม่รู้ว่ากรุงเทพมหานคร มีชื่อเต็มว่าอะไร ลองไปหากันได้ที่นี่ ตรงข้ามเป็น เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ สถานที่สร้างขวัญกำลังของชาวกรุง
จากนั้นปั่นไปตามถนนเส้นเล็กข้างศาลาว่าการกรุงเทพฯ จะเจอกับ ” อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ” ศูนย์รวมประวัติศาสตร์การชุมชนทางการเมืองของไทย เลยไปอีกนิดแวะพักชม ” นิทรรศรัตนโกสินทร์ ” อาคารจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับกรุงรัตนโกสินทร์ เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ แต่ควรมีเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงในการเข้าชมนิทรรศการ
แลนมาร์กสุดท้าย อยู่ตรงข้ามกับป้อมมหากาฬ เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ” โลหะปราสาท “ วัดราชนัดดารามวรวิหาร โลหะปราสาทแห่งแรกของไทยอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาท 37 ยอด ภายในมีบันไดวนให้ขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ด้านบนสุดเป็นจุดชมวิวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ จะมองเห็น ภูเขาทอง สวยงามโดดเด่นเป็นสง่า ท่ามกลางแสงแดดจ้า
” เกาะรัตนโกสินทร์ ” ยังมีสถานที่หลายแห่งอันทรงคุณค่าที่แอบซ่อนไว้ วันหยุดนี้ลองไปปั่นจักรยาน เปิดโลกทัศน์มองอดีต และชมความสวยงามของเมืองกรุง รับประกันทั้งความสุข สนุก ประสบการณ์แสนตื่นเต้นที่หาได้ไม่ไกล
Tip : เลนจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ มีพื้นผิวที่ยังไม่ค่อยราบรื่น ยังมีฝาท่อระบายน้ำที่ต้องคอยหลบอยู่ตลอด ส่วนตัวกั้นเลนไม่ได้มีตลอดเส้นทาง การปั่นใช้ความเร็วได้ไม่มาก เพราะตัวเลนมักมีรถจอด หรือคนยืนกีดขวางอยู่